ประวัติ และเส้นทางการต่อสู้ของสหายดาว (เด่น คําแหล้)
เด่น คําแหล้ เกิดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2494 ณ บ้านท่าสี ต.หนองแสง อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี (ปัจจุบันขึ้นกับอําเภอหนองแสง จังหวัดอุดรธานี) เป็นบุตรของนายที นางติ๋ม คำแหล้ มีพี่น้องร่วมกันทั้งสิ้น 4 คน เป็นชาย 1 คน และหญิง 3 คน ต่อมาครอบครัวได้อพยพมาที่บ้านวังหินซา ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลําภู ในปี พ.ศ. 2509
นายเด่น คําแหล้ เข้าศึกษาในระดับประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียน บ้านวังหินซา ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.อุดรธานี (ในขณะนั้น) จากนั้นได้อุปสมบทอยู่ระยะหนึ่ง ต้องสึกออกมาทํางานช่วยเหลือครอบครัว โดยไปเป็นลูกจ้างดํานาอยู่ที่ อําเภอสุวรรณคูหา ได้ข้าวปีละ 50 กระบุง เป็นค่าตอบแทน นอกจากนี้ เด่น คําแหล้ ยังหารายได้เสริมด้วยการชกมวย โดยมีสถิติชนะตลอดมา ไม่เคยได้รับความพ่ายแพ้แม้แต่ครั้งเดียว
จากลูกชาวนามาเป็นสหาย
ในปี พ.ศ. 2514 พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ได้เข้ามา เคลื่อนไหวในเขตพื้นที่ตําบลดงมะไฟ อําเภอสุวรรณคูหา ในขณะที่ เด่น คําแหล้ ยังคงรับจ้างดํานา และชกมวย เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมกับสหายของพรรคฯ เช่น การจัดการศึกษาทางการเมือง เป็นต้น กระทั่งเป็นที่เพ่งเล็งของฝ่ายรัฐ และเดินทางเข้าร่วมต่อสู้ กับ พคท. ในปี พ.ศ. 2516 เป็นต้นมา โดยเคลื่อนไหวในพื้นที่เขตงานภูซาง ภายใต้ชื่อจัดตั้ง “สหายดาว อีปุ่ม”
ช่วงปี พ.ศ. 2518 – 2520 พรรคฯ ได้ส่งสหายดาว อีปุ่ม ไปเรียนที่โรงเรียนการเมืองการทหารที่ลาว และเวียดนาม เพื่อยกระดับทั้งทางความคิดทฤษฎีทางการเมือง และการทหาร หลังจากนั้นได้กลับมาเคลื่อนไหวในเขตงานภูซาง อีกครั้ง
หลังจากกลับจากเวียดนาม และลาว ศูนย์การนําของพรรคฯ ในเขตภูซางได้ส่งสหายดาว และคณะมาบุกเบิกเคลื่อนไหวในเขต 196 แถบอําเภอคอนสาร เกษตรสมบูรณ์ ภูเขียว หนองบัวแดง และบ้านเขว้า (โดยตั้งชื่อเขต 196 เพื่อเป็นการให้เกียรติกับนักศึกษาที่เข้ามาทําการเคลื่อนไหวชาวนาในพื้นที่ดังกล่าว)
ปี 2525 เด่น คําแหล้ ได้ออกจากป่า และเริ่มต้นชีวิตเกษตรกรอีกครั้งที่บ้านทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ โดยได้แต่งงานกับนางสุภาพ คําแหล้ และปลูกข้าวโพด ถั่วแดง ในพื้นที่โคกยาว ซึ่งเป็นที่ดินของพ่อตา ซึ่งอาศัยทํากินที่ดินดังกล่าวมาเป็นเวลายาวนานแล้ว
การต่อสู้รอบใหม่ ภายใต้ชีวิตเกษตรกร
ชีวิตเกษตรกรของนายเด่น และนางสุภาพ คําแหล้ ได้ดําเนิน มาอย่างปกติเพียง 3 ปี โดยในปี พ.ศ. 2528 รัฐบาลได้เข้าดําเนิน โครงการ “หมู่บ้านรักษ์ป่า ประชารักษ์ สัตว์” ซึ่งได้ทําการอพยพขับไล่ชาวบ้านในพื้นที่โคกยาวออกจากที่ทํากิน โดยอ้างว่าจะจัดสรรที่ดินรองรับ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทําการปลูกสวนป่ายูคาลิปตัส ส่วนพื้นที่รองรับเป็นที่ดิน ที่มีการถือครองทําประโยชน์ของชาวบ้านทุ่งลุยลายอยู่แล้ว ทําให้ไม่สามารถเข้าทํากินได้ และกลับเข้าที่เดิมก็ไม่ได้ เนื่องจากในระยะแรกมีกําลัง ทหารพราน และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ควบคุมอยู่
ในช่วงนั้น เด่น คําแหล้ และชาวบ้านผู้เดือดร้อน ได้เรียกร้องขอความเป็นธรรมเพื่อขอกลับเข้าทํากินในพื้นที่ดินเดิม ซึ่งมีเพียงนายสุเทพ โรจนทองคํา ผู้ใหญ่บ้านในขณะนั้น ที่สามารถเข้าทําประโยชน์ในที่ดินเดิมได้ ส่วนนายเด่น คําแหล้ และนายสนาม จุลนันท์ ได้รับอนุญาตให้เข้าเลี้ยงสัตว์ได้
ช่วงปี พ.ศ. 2539 – 2542 นายเด่น คําแหล้ ได้เคลื่อนไหวเรียกร้อง สิทธิในที่ดินทํากินกับชาวบ้านทุ่งลุยลาย อีกครั้ง โดยมีการชุมนุมที่หน้าที่ว่าการอําเภอคอนสาร กระทั่งมีการแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการถือครอง ที่ดินป่าไม้ระดับอําเภอ เพื่อตรวจสอบการถือครองพื้นที่ในเขตตําบลทุ่งลุยลาย
ข้อมูลหนังสือ
ชื่อเรื่อง
เด่น คำแหล้ ความทรงจำ การสูญหาย และเสียงร่ำไห้ของลำน้ำพรม
ISBN
978-616-7909-05-9
พิมพ์ครั้งที่
1 (พฤษภาคม 2560)
จัดพิมพ์ และดำเนินโครงการโดย
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม
89 ซอยสิทธิชน ถ.สุทธิสารวินิจฉัย สามเสนนอก ห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 โทรศัพท์ (+66) 2101-5481 อีเมล์ crcf.justice@gmail.com, www.facebook.com/Cross Cultural Foundation (CrCF)
ร่วมดำเนินโครงการโดย
เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน (คปอ.)
ุ501 ต.คอนสาร อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ 36180 โทรศัพท์ (+66) 6978-5629, www.esaanlandreformnews.com
Focus on the Global South
4th Floor, Wisit Prachuabmoh Building, Chulaongkorn University, Phayathai Road, Bangkok 10330, Thailand Tel: (+66) 2218-7363 Fax: (+66) 2255-9976
พิมพ์ที่
สำนักข่าวปฏิรูปที่ดินอีสาน
พิมพ์ที่
บริษัท พี. เพรส จำกัด
129 แยกซอยศศิริพจน์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250 โทรศัพท์ (+66) 2743-4754-5
ดาวน์โหลด E-Book
เด่น คำแหล้ ความทรงจำ การสูญหาย และเสียงร่ำไห้ของลำน้ำพรม |
ขนาดไฟล์: 8.37 MB ดาวน์โหลดแล้ว: 26 ครั้ง |
Download |