มาถึงขั้นตอนนี้ ก็นับว่าใกล้เคียงความเป็นจริงแล้ว ที่การจดทะเบียนสมรสไทยลาวจะสำเร็จ สำหรับขั้นตอนนี้ เราจะต้องเตรียมเอกสารทั้งหมดของทั้งสองฝ่ายา ฝ่ายคนไทยมี 13 รายการ (ดูบทความ [EP-08] เอกสารฝ่ายคนไทย ที่ต้องทำเพิ่ม ก่อนเดินทางกลับไป สปป. ลาว] และ ฝ่ายคนลาวมี 14 รายการ (ดูบทความ [EP-11] เอกสารฝ่ายคนลาว ที่ต้องทำเพิ่ม ก่อนไปยื่นเมือง พร้อมเอกสารฝ่ายไทย] หรือคลิกที่โพสต์แนะนำด้านล่างนี้ เพื่อกลับอ่านอีกครั้งสำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจ แต่ใครที่พร้อมแล้ว ก็กันต่อได้เลย
บทความแนะนำ
การสมรสในต่างประเทศระหว่างคนที่มีสัญชาติไทยด้วยกัน หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสัญชาติไทยสามารถดำเนินการที่สถานเอกอัครราชทูต หรือสถานกงสุล
เมื่อได้เอกสารแปลเป็นภาษาลาว ของฝ่ายคนไทยแล้ว ทีนี้ เรามาเช็คความพร้อมเอกสารของฝ่ายคนลาวกันก่อน ว่ามีครบ หรือขาดอันไหนหรือเปล่า
สรุปรายการเอกสาร และสิ่งที่ต้องเตรียมดังนี้
ลำดับ | เอกสารฝ่ายไทย (พร้อมเอกสารแปลลาว) | เอกสารฝ่ายลาว |
---|---|---|
1 | แบบรับรองรายการทะเบียนราษฎร (ท.ร. 14/1) | ໃບຢັ້ງຢືນທີ່ຢູ່ (6) P8 |
2 | แบบรับรองข้อมูลเกี่ยวกับบัตรประชาชน (บ.ป.4) หรือบัตรประจำตัวประชาชน | ສຳເນົາບັດປະຈຳຕົວ (10) |
3 | หนังสือรับรองสถานภาพการสมรส | ໃບຢັ້ງຢືນສະຖານະພາບຂອງບຸກຄົນ (3) P5 |
4 | ใบรับรองแพทย์ | ໃບຢັ້ງຢືນສຸຂະພາບ (9) |
5 | หนังสือรับรองความประพฤติ | ໃບແຈ້ງໂທດເລກທີ 3 (8) |
6 | ใบรับประกันส่งคนลาวกลับคืนประเทศ | - |
7 | สำเนาหนังสือเดินทาง | ສຳເນົາໜັງສືຜ່ານແດນ (11) |
8 | ใบคำเห็นสถานทูต/กงสุล | - |
9 | คำร้องขอแต่งงาน | ໃບຄຳຮ້ອງຂໍແຕ່ງດອງ (1) P2 |
10 | ชีวประวัติย่อ | ຊີວະປະຫວັດຫຍໍ້ (2) P3-4 |
11 | ใบยั่งยืนฐานะเศรษฐกิจ/ใบแจ้งทรัพย์สิน | ໃບແຈ້ງຊັບສິນ (5) P7 |
12 | หนังสืออนุญาตจากผู้ปกครอง | ໃບອະນຸຍາດຈາກຜູ້ປົກຄອງ (4) P6 |
13 | รูปถ่ายขนาด 3x4 ซม. 6 ใบ | ຮູບຖ່າຍຂະນາດ 3x4 cm. 6 ໃບ (14) |
14 | - | ໜັງສືໝັ້ນໝາຍ (7) P9-10 |
15 | - | ປື້ມສຳມະໂນຄົວ (12) |
16 | - | ສຳເນົາໃບຢັ້ງຢືນການເກີດ (13) |
เมื่อเช็คเอกสารทั้งหมด และแน่ใจว่าครบแล้ว ก็ออกเดินทางได้เลย จุดหมายปลายทางของเราในครั้งนี้ คือ กองบัญชาการ ปกส. เมือง ของเมืองที่ฝ่ายคนลาวมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านนั้นๆ อธิบายง่ายๆ คือ ทะเบียนบ้านของฝ่ายคนลาว อยู่เมืองไหน ก็ให้เดินทางไปที่กองบัญชาการ ปกส. ที่เมืองนั้นนั่นเอง
เมื่อไปถึงกองบัญชาการ ปกส. เมืองแล้ว ก็ให้ไปติดต่อที่ “แผนกสันติบาล” แล้วนำเอกสารไปยื่น โดยแจ้งว่ามายื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรสกับคนต่างประเทศ จากนั้นแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะทำการตรวจความครบถ้วนของเอกสาร เมื่อตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ก็จะให้เอกสารมาให้เรา 1 ฉบับเรียกว่า “โฉนดนำส่ง” (ສະໂນດນຳສົ່ງ) โฉนดนำส่งนี้ เป็นเอกสารที่ยืนยันการตรวจสอบเอกสารการขอยื่นจดทะเบียนสมรสว่ามีเอกสารอะไรบ้าง จำนวนกี่ฉบับ และส่งเรื่องต่อให้ กองบัญชาการ ปกส. แขวง ดำเนินการตามขั้นตอนถัดไป
เมื่อได้โฉนดนำส่งแล้ว ขั้นตอนต่อไป เราก็นำโฉนดนำส่งฉบับนี้ ก็ไปที่กองบัญชาการ ปกส. แขวงที่เราอยู่ได้เลย ใกล้ถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้วนะครับ โปรดติดตามตอนต่อไป..
ตัวอย่างโฉนดนำส่งจาก ปกส. เมือง
ข้อแนะนำ อุปสรรค ปัญหา ในขั้นตอนนี้
ยิ่งใกล้ถึงขั้นตอนสุดท้าย ยิ่งใกล้สำเร็จมากเท่าไหร่ ปัญหา อุปสรรคก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น จริงๆ แล้วขั้นตอนการยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรสกับคนต่างประเทศที่ กองบัญชาการ ปกส. เมืองนั้น เป็นเพียงกระบวนการ “ตรวจสอบความครบถ้วน ความถูกต้องของเอกสารของผู้มายื่นเท่านั้น” ถ้าครบก็ออกใบโฉนดนำส่งให้ ก็จบขั้นตอนตรงนี้
ผู้เขียนเดินทางไปถึง ปกส. เมืองเวลาประมาณ 10:30 น. พบเจ้าหน้าที่เดินไปเดินมาอยู่ไม่กี่คน เมื่อสอบถามดูจึงรู้ว่าเจ้าหน้าที่ยังไม่เข้ามา ถ้าเรารีบให้โทรตาม แล้วก็ให้เบอร์มา และเพื่อไม่ให้เสียเวลา ผู้เขียนจึงได้โทรติดต่อไป และก็ได้รับคำตอบมาว่า ให้รอประมาณ 10-20 นาทีจะเข้าไป หลังจากนั้นก็รออีกประมาณโมงนึงถึงได้พบเจ้าหน้าที่ผู้รับเรื่อง ตรงนี้อยากให้ทำใจเรื่องการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐที่นี่ก่อน โดยเฉพาะในขั้นเมืองนี่ ก็จะทำงานกันประมาณนี้
เมื่อได้เจอกับเจ้าหน้าที่ผู้รับเรื่อง เขาก็อ่านเอกสารของเราอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็เริ่มพูดถึงปัญหาต่างๆ แล้วแจ้งว่าเอกสารเรามีปัญหา ตรงนั้นตรงนี้ (ทั้งๆ ที่เอกสารของเราเรียบร้อยหมดทุกอย่าง) ผู้เขียนเน้นย้ำให้เกิดความเข้าใจอีกครั้งว่า ในขั้นตอนนี้ ปกส. เมือง มีหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้อง ความครบถ้วนของเอกสารเราเท่านั้น อย่างอื่นไม่ใช่หน้าที่
นอกจากจะแจ้งว่าเอกสารเรามีปัญหาแล้ว เขายังถามอีกว่า แน่ใจแล้วหรือว่าจะแต่งงานกับแฟนคนนี้, รู้จักกับแฟนคนไทยคนนี้มากน้อยแค่ไหน ถามอีกหลายเรื่อง เหมือนพยายามสร้างความสับสนให้ผู้เขียน โดยอ้างว่า เขามีความเป็นห่วงพลเมืองลาวที่จะต้องแต่งงานกับคนต่างประเทศ กลัวถูกหลอกแล้วจะมีปัญหา บลาๆๆๆ ผู้เขียนก็ได้แต่นั่งฟังเขาเฉยๆ เพราะไม่อยากมีปัญหาอะไร แค่อยากจะรู้ว่าเขาต้องการอะไรกันแน่
จากนั้นสุดท้ายก็จบด้วยการบอกว่า ถ้าจะให้เรื่องเรียบร้อยต้องมีค่าดำเนินการนิดหน่อย พอเขาบอกจำนวนเงินมาผู้เขียนก็ค่อนข้างตกใจ เพราะเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเหมือนกัน และคิดว่าไม่ควรจะต้องเสีย หรือไม่ควรเสียมากเท่านี้ (อยากรู้ว่าเท่าไหร่หลังไมค์มาถามนะครับ) ผู้เขียนเลยบอกว่าถ้าเป็นเงินจำนวนตามที่เรียกมา ผู้เขียนต้องขอปรึกษาแฟนก่อน แล้วก็เดินออกมา
แต่พอผู้เขียนกำลังจะขับรถกลับบ้าน ก็มีเสียงโทรศัพท์ติดต่อกลับมา ใช่แล้ว เป็นทีมงานเขานั่นแหละ ติดต่อมาบอกว่าจะลดราคาให้ลงประมาณ 30% จากที่เรียกไว้ครั้งแรก ผู้เขียนก็ต่อรองลงเหลือประมาณ 50% จากที่เสนอมา สุดท้ายเขาก็รับข้อเสนอ ต่อรองกันอยู่นานสุดท้ายเขาก็ยอม เราจึงได้นำเอกสารไปส่งให้เขาแบบหลบๆ ลับๆ ด้านหลังอาคาร แล้วก็รออีกประมาณไม่ถึงชั่วโมงเขาก็โทรให้ไปรับเอกสาร เป็นอันเรียบร้อย
จริงๆ ผู้เขียนไม่ได้ตั้งใจอยากไปช่องทางพิเศษใดๆ แต่เพราะมันเลี่ยงไม่ได้ ไม่ตามเขาเราก็ต้องเสียเวลาอีก สำหรับค่าใช้จ่ายในขั้นตอนการตรวจเอกสาร และทำใบนำส่งเอกสาร ผู้เขียนไม่รู้ว่าจริงๆ ถ้าต้องจ่ายเป็นค่าธรรมเนียมจริงๆ จะเป็นจำนวนเท่าไหร่ แต่คิดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 200,000 กีบ (ใครรู้ว่าค่าธรรมเนียมจริงๆ ในขั้นตอนนี้เป็นจำนวนเท่าไหร่ช่วยบอกด้วยจะเป็นพระคุณยิ่ง)
สรุปว่า หากเพื่อนๆ ท่านใดที่ไปเดินเรื่องขั้นตอนนี้ แล้วเจอสถานการณ์แบบนี้ ก็ขอให้เข้าใจ และรู้ทันเขา และขอให้คิดไว้ล่วงหน้าเลยว่า ต่อให้เราไม่มีอะไรผิด เอกสารถูกต้องทุกอย่าง แต่ถ้าเขาบอกว่าผิด ยังไงก็ผิด คุณไม่มีทางชนะ ถ้าอยากได้เอกสารเพื่อไปขั้นตอนต่อไป ก็ต้องเตรียมใจ เตรียมงบเอาไว้ และต่อรองให้ได้มากที่สุด เชื่อเถอะ ยังไงเขาก็อยากได้ผลประโยชน์ทั้งนั้นแหละ ผู้เขียนหวังว่าทุกท่านจะผ่านขั้นตอนนี้ไปกันได้ทุกท่านนะครับ
หมายเหตุ: เรื่องที่เล่าข้างต้นนี้ เป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่ผู้เขียนได้ไปเจอมาด้วยตัวเอง ซึ่งอาจไม่ตรงกับประสบการณ์ของท่านอื่น เจ้าหน้าที่แต่ละเมือง แต่ละแขวง แต่ละที่ ก็มีการปฏิบัติที่ไม่เหมือนกัน เจ้าหน้าที่ที่บริการ และดูแลประชาชนดีก็มีเยอะ ดังนั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการศึกษาข้อมูลให้รอบด้านด้วย
ดาวน์โหลด
สำหรับท่านใดที่กำลังอยู่ในขั้นตอนนี้ สามารถดาวน์โหลด Check List เอกสารของขั้นตอนนี้ได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้